จากข้อเท็จจริง สองประการ ที่คนส่วนใหญ่รู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน คือ การเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ และอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่สูงขึ้น อีกทั้งการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศระดับนานาชาติ ก็พยายามให้เกิดความร่วมมือแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) อย่างเป็นรูปธรรม หรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์  โดยมีแนวทาง คือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต้นทาง เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable energy) แทนเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil fuel) และการชดเชยคาร์บอนเครดิต (Carbon offsets) โดยการลงทุนในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพภูมิอากาศ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับประเทศไทยก็ได้ประกาศการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) จึงทำให้เกิดคำถามจากทุกภาคส่วนว่า “จะดำเนินการอย่างไรให้เข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนตามที่ประกาศ”

ด้วยเหตุนี้ ในการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 62 สาขาวิทยาศาสตร์จึงได้จัดให้มีการเสวนาพิเศษเรื่อง “เทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน”หรือ Carbon Storage and technology toward Carbon Neutrality ขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 9.00 -12.00 น. ที่ห้องประชุม 306 ชั้น 3 อาคารสำนักบริการคอมพิวเตอร์ และยังสามารถรับฟังได้ทางออนไลน์ผ่านระบบ Cisco Webex  ระบบถ่ายทอดสด NontriLive ที่ https://live.ku.ac.th ผู้สนใจจะได้รับทราบข้อมูลและคลี่คลายความสงสัย ตั้งแต่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่สูงขึ้น หมายความว่าอะไร ส่งผลโดยตรงอย่างไรต่อภาคการเกษตรของประเทศไทย พร้อมแนวทางมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน 3 ขั้นตอน คือ (1) การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ทดแทน (2) คาร์บอนเครดิตหรือการชดเชยคาร์บอน และ (3) การใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและเทคโนโลยี ได้แก่ ผู้บริหาร ปตท. สผ. ผู้บริหาร บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์บอนเครดิตจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และนักวิทยาศาสตร์บรรยากาศ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ติดตามข้อมูลการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 62 ได้ที่ https://annualconference.ku.ac.th/62/