สุวัจน์ดันเจ็ตสกี “นำเข้า”4พันคน! สร้างมหกรรมกีฬาเอง ชูทรัพย์สินทางปัญญา ออกสู้ต่างชาติเวทีโลก

   เมื่อ : 05 มิ.ย. 2567

WGP#1 ทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีสัญชาติไทย เดินหน้าเต็มตัวบนเวทีโลก โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ตอบรับนั่งประธานโครงการฯ มั่นใจงานพัฒนาศักยภาพกีฬาไทยรูปแบบใหม่ ด้านทรัพย์สินทางปัญญา และซอฟต์พาวเวอร์ จะสร้างประโยชน์ชาติมหาศาล ปีนี้สั่งโรด์โชว์ล่าเป้าหมาย “เติบโตเป็นมหกรรมกีฬานานาชาติ แบรนด์ไทย ที่ยั่งยืน” เพื่อนำเข้าทีมนักกีฬานานาชาติ 4000 คน เงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 800 ล้านบาท และต่อยอดเพิ่มจากเวทีกีฬาโลก เป็น “ศูนย์กลางเวทีการค้าโลก” ชี้กีฬาไทยยุคใหม่ ทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทยต้องส่งออกขายฝรั่งได้ กีฬาจึงจะแข็งแกร่ง


 

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานโครงการ WGP#1 เปิดเผยว่า “ผมได้เห็นการพัฒนาของกีฬาเจ็ตสกี WGP#1 มาแล้วหลายปี ตั้งแต่เจ็ตสกีไทยยังเล็กๆ ทำตามฝรั่งต่างชาติที่เข้ามาควบคุมการจัดทัวร์นาเม้นท์ทุกอย่าง พัฒนาถึงวันนี้ คนไทยขึ้นมาควบคุมการบริหารกีฬาเจ็ตสกีโลก และกลับกัน เป็นสมาคมเจ็ตสกีโลก IJSBA สหรัฐอเมริกา ยุโรป สมาคมกีฬาเจ็ตสกีนานาชาติทั่วโลก ที่ต้องฟังนโยบายจากไทย สิ่งนี้เป็นการพัฒนากีฬาที่มีมูลค่าอย่างสูงยิ่ง

 

ปีนี้ เราจะตั้งเป้าเป็นมหกรรมกีฬานานาชาติแบรนด์ไทย ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำทีมนักกีฬาต่างชาติเข้ามาเมืองไทยมากกว่า 4000 คน ซึ่งกับกีฬาเจ็ตสกีนั้น ต้องส่งเรือแข่งเข้ามา ส่งอุปกรณ์ ทีมงานจำนวนมาก มาอยู่ในเมืองไทยเฉลี่ยกว่า 14 วัน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวกว่า 200000 บาท หมายความว่า ปลายปีนี้ WGP#1 จะนำเข้ารายได้และสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 800 ล้านบาท เฉพาะกลุ่มนักกีฬา 


 

ยังมีประโยชน์ด้านต่างๆที่เกิดขึ้นกับส่วนรวมอีกมาก เช่น สื่อโทรทัศน์และออนไลน์ ที่จะถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลกครอบคลุมกว่า 120 ประเทศ บนเครือข่ายสื่อกว่า 400 ล้านครัวเรือน เชื่อมั่นว่าด้านสื่อจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราจะใช้โอกาสนี้ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย นำเสนอภาพสวยๆของไทย ออกไปถึงผู้คนทั่วโลก 

 

อีกด้านเป็นการขยับตัวพัฒนางานครั้งสำคัญ เมื่อ WGP#1 เป็นสนามแข่งที่นักกีฬาทั่วโลกเชื่อถือว่าเป็นทัวร์นาเม้นท์แข่งขันอันดับที่ 1 ศูนย์กลางของโลกแล้ว ไทยจะขยับตัวสู่ศูนย์กลางเวทีการค้าโลก โดยจัดงานแสดงเปิดตัวเจ็ตสกีรุ่นใหม่ล่าสุดของโลกทุกๆปี และการจัดประชุมสัมมนา ต่อยอดให้คนในอุตสาหกรรมกีฬานี้ของโลก เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขณะนี้แบรนด์ผู้ผลิตเจ็ตสกีทั้ง 3 รายใหญ่ของโลก อาทิเช่น คาวาซากิ ซีดู และยามาฮ่า ตอบรับแล้ว นั่นเพราะไทยมีจุดขายโชว์เคส ที่ดีที่สุดในโลก ได้เห็นสมรรถนะเรือเจ็ตสกีที่แชมป์โลกขับ ขณะเดียวกันก็เป็นเวทีสนับสนุนอุปกรณ์กีฬาเจ็ตสกีไทยขยายตัวการส่งออกสู่ตลาดโลกด้วย 


 

กีฬาเจ็ตสกี WGP#1 มาถึงจุดนี้ได้ คือคำตอบว่า เหตุใดต้องออกไปแข่งขันสร้างความเชื่อถือบนเวทีโลก การไปสร้างโรด์โชว์ หรือเวิรด์ทัวร์ เป็นงานที่ยาก เพราะต้องแข่งกับต่างชาติ แต่ก็จำเป็นต้องทำ ถ้าทำสำเร็จจะเห็นว่า งานด้านทรัพย์สินทางปัญญากีฬา สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติได้มากมาย นี่คือซอฟต์พาวเวอร์อย่างแท้จริง อย่าไปมองว่าเจ็ตสกีเป็นกีฬาคนรวย อันนี้ผิดจุด ทั้งๆที่กีฬานี้มีนักกีฬาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แต่ได้รับโอกาสจากเจ้าของทีมจำนวนมาก เหมือนโมโตจีพี ขอให้มองให้ชัดเจนว่า นี่แหละคือ วัตถุดิบสร้างซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถมีผลกับตลาดโลก 

 

ผมขอเน้นว่า ถ้าเราสามารถทำงานนี้ให้เป็น มหกรรมกีฬานานาชาติ แบรนด์ไทย ที่ดึงดูดทีมกีฬาต่างประเทศเข้ามาได้ระดับ 4000-5000 คน บางกิจกรรมต้องไปเสียเงินซื้อลิขสิทธิ์ให้ต่างประเทศระดับ 400-500 ล้านบาท หรือ 1000 ล้านบาท ถ้าเทียบกันแล้ว กิจกรรม WGP#1 จึงเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมากในหลายด้าน” 

 

                                #####