เตรียมพบงานผ้าไหมไทยยิ่งใหญ่แห่งปี งาน “ตรานกยูงพระราชทาน ฯ ครั้งที่ 19” 1 – 4 ส.ค.นี้

   เมื่อ : 26 ก.ค. 2567

 กรมหม่อนไหม เตรียมจัดงาน ”ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ครั้งที่ 19 อลังการนิทรรศการผ้าไหมไทย เรียนรู้เส้นทางอาชีพและนวัตกรรมหม่อนไหม  พร้อมช้อปสินค้าผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานอีกมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 1 - 4 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

 

ร้อยเอกธรรมนัส    พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า    เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ที่ทรงสืบสานและทรงให้ความสำคัญกับผ้าไหมไทยและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567   ได้มอบหมายให้กรมหม่อนไหมจัดงาน ”ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ครั้งที่ 19 ขึ้นภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์หม่อนไหม ภูมิปัญญาผ้าไทย เทิดไท้องค์ราชัน”  ระหว่างวันที่ 1 - 4 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี   ซึ่งงานดังกล่าวยังเป็นเวทีในการช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยคุณภาพ ผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหมของเกษตรกรให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งยังสนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ และเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ช่วยกันสืบสานภูมิปัญญาต่อไป 

 

เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจสินค้าภาคเกษตรให้เกษตรกรไทย ให้สามารถยกระดับรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปีตามนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯอีกด้วย  
 ด้านพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานว่า  ประกอบด้วย   นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ  นิทรรศการตรานกยูงพระราชทาน จัดแสดงผลงานการประกวด เส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ประจำปี 2567 / นิทรรศการ 72 หมู่บ้าน รวมใจปลูกหม่อนน้อมถวาย 72 พรรษา ทศมินทรราชา สืบสาน รักษา ต่อยอด  สู่ 12 พรรณพฤกษาไทย สร้างสีสันบนผ้าไหม 21 ลายทรงเลือก / นิทรรศการเส้นทางสายไหม / นิทรรศการ ผลงานของกรมหม่อนไหมและหน่วยงานการบูรณาการ นิทรรศการทายาทหม่อนไหม และยังมีการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมไทย และสินค้าหม่อนไหม จากทั่วประเทศ มากกว่า 230 ร้านค้า 

 

นอกจากนี้    ไฮไลท์สำคัญของการจัดงานในครั้งนี้  คือ “เส้นทางอาชีพหม่อนไหม” เป็นการจัดแสดงเส้นทางอาชีพด้านหม่อนไหมที่มีการต่อยอดไปสู่อาชีพอื่น ๆ ได้แก่ อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม นักออกแบบและตัดเย็บผ้าไหม ธุรกิจขายชาใบหม่อน การค้าดักแด้ไหม ผลิตภัณฑ์ความงามและเฟอร์นิเจอร์จากไหม การขายสีย้อมผ้าและการทำคาเฟ่ (Silkberry Cafe) รวมทั้ง กิจกรรม Workshop การพิมพ์ลายกระเป๋าจากสีธรรมชาติ การทำเครื่องประดับจากเศษผ้าไหม 

 

และยังมีผลงานการบูรณาการ ที่ทางกรมหม่อนไหมได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ   นวัตกรรมการผลิตผ้าไหมเส้นไหมด้วยกราฟีนเพื่อใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้แก่เส้นไหมและผ้าไหม ซึ่งนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ เช่น  เครื่องนุ่งห่ม สิ่งทอตกแต่งบ้าน  มีคุณสมบัติพิเศษในรูปแบบที่แตกต่างกันตามสภาพอากาศ เช่น ช่วยให้เย็นสบายเมื่ออากาศร้อน และช่วยให้อบอุ่นเมื่ออากาศเย็น  การนำไหมมาพัฒนาเป็นวัสดุทางการแพทย์ ช่วยผู้ป่วยที่ผ่าตัดมะเร็งเต้านม สำหรับเป็น ”วิศวกรรม โครงร่างเต้านม”    เพื่อใช้ฟื้นฟูเนื้อเยื่อเต้านมที่เกิดจากการผ่าตัดมะเร็งเต้านม และเสริมโครงสร้างเนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดการยุบตัวเนื่องจากการผ่าตัด การพัฒนาการป้องกันกำจัดโรคแบคทีเรียในไหมหัตถกรรมด้วยสารสกัดจากพืช การจัดแสดงผลงาน “จากนักโทษ สู่นักทอ” การขยายผลต่อยอดโครงการพัฒนาผู้ต้องขังด้านการทอ ผ้าไหมสู่การประกอบอาชีพช่างทอผ้าไหมเมื่อพ้นโทษ 
              

นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีการจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายประเภทให้เลือกชมเลือกซื้อ เช่น ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ผ้าไหมอัตลักษณ์จากทั่วทุกภาคของประเทศไทย สินค้าแปรรูปต่าง ๆ จากหม่อนและไหม เช่น อาหาร ขนม เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เครื่องประดับ และของแต่งบ้าน ฯลฯ พร้อมกิจกรรมสาธิตและการแสดงต่าง ๆ ตลอดงาน  

 

                                       #####