กทม. ค่าฝุ่นดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หลายพื้นที่อิสานยังคงเจอพิษฝุ่น
กระทรวง อว. โดย GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 พบ 6 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และร้อยเอ็ด ในขณะที่อีก 18 จังหวัดทั้งภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ
ส่วนหลายเขตในกรุงเทพมหานครมีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่ดีขึ้นต่อเนื่องและอยู่ในโซนสีเหลืองกับสีเขียว
แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสีส้มและสีแดงต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน ”เช็คฝุ่น”
ดาวน์โหลดใช้งานแอปพลิเคชัน เพียงท่านพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ทั้งในระบบ IOS และ Android ก็สามารถใช้งานได้เลยทันทีครับ
#GISTDA #อว #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #ค่าฝุ่นละออง #ฝุ่นพิษวิกฤติชาติ #รู้สู้ภัยพิบัติ #PM2POINT5 #ข้อมูลรายชั่วโมง #วช #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ #สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
เช็คฝุ่น PM 2.5
ด้วยข้อมูลจากอวกาศhttps://www.gistda.or.th/news_view.php?n_id=6803&lang=THค่าฝุ่น PM 2.5 จากการวัดด้วยแอปพลิเคชั่นต่างๆ และแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”https://www.gistda.or.th/news_view.php?n_id=6728&lang=TH