สำนักงาน คปภ. เรียกบริษัทประกันภัยเข้าชี้แจง กรณีปัญหาการปรับเบี้ยประกันภัย หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพที่กำลังเป็นกระแสในสื่อโซเชียล พร้อมย้ำต้องไม่กระทบสิทธิผู้เอาประกันภัย

   เมื่อ : 25 ก.ค. 2568

ตามที่ปรากฏข้อร้องเรียนจากประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัยของแบบประกันสุขภาพ และผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้เอาประกันภัย  สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย 
ได้ติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด

 

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 
(เลขาธิการ คปภ.) สั่งการให้ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ และ นายอาภากร ปานเลิศ 
รองเลขาธิการ ด้านกำกับธุรกิจประกันภัย มีคำสั่งให้ บริษัทผู้เสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพดังกล่าว เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างเป็นทางการ โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 
แนวทางบริหารความเสี่ยง การบริหารค่าสินไหมทดแทน และจำนวนผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว 
รวมถึงแนวทางการสื่อสารกับผู้เอาประกันภัยในประเด็นการปรับแผนความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัย

 

ในการนี้ สำนักงาน คปภ. กำชับให้บริษัทหยุดการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นอยู่ในขณะนี้รวมทั้งได้ให้ ข้อสังเกตในประเด็นสำคัญ อาทิ ความชัดเจนและความเหมาะสมของข้อมูลในขั้นตอนการเสนอขายผลิตภัณฑ์ การพิจารณาเบี้ย ประกันภัยให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยง ตลอดจนการบริหารจัดการความคาดหวังของผู้เอาประกันภัยในกลุ่มที่มีทุนประกันภัยสูง รวมถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของบริษัทภายใต้ระบบ Early Warning System (EWS) พร้อมกำชับให้บริษัทฯ ต้องจัดทำและนำส่งแผนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมระบุเป้าหมายในการลดจำนวนข้อร้องเรียน โดยให้คณะกรรมการ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทเป็นผู้ลงนามรับรอง และแจ้งผลการดำเนินการต่อสำนักงาน คปภ. ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการใน ลำดับต่อไป

 

ในการนี้ สำนักงาน คปภ. กำชับให้บริษัทหยุดการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นอยู่ในขณะนี้รวมทั้งได้ให้
ข้อสังเกตในประเด็นสำคัญ อาทิ ความชัดเจนและความเหมาะสมของข้อมูลในขั้นตอนการเสนอขายผลิตภัณฑ์ การพิจารณาเบี้ย
ประกันภัยให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยง ตลอดจนการบริหารจัดการความคาดหวังของผู้เอาประกันภัยในกลุ่มที่มีทุนประกันภัยสูง 
รวมถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของบริษัทภายใต้ระบบ Early Warning System (EWS) พร้อมกำชับให้บริษัทฯ 
ต้องจัดทำและนำส่งแผนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมระบุเป้าหมายในการลดจำนวนข้อร้องเรียน โดยให้คณะกรรมการ
ผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทเป็นผู้ลงนามรับรอง และแจ้งผลการดำเนินการต่อสำนักงาน คปภ. ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 
เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในลำดับต่อไป
พร้อมกันนี้ สำนักงาน คปภ. ได้เน้นย้ำให้บริษัทฯ ดำเนิน

พร้อมกันนี้ สำนักงาน คปภ. ได้เน้นย้ำให้บริษัทฯ ดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบ โดยมิให้ผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบจากกระบวนการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
สำนักงาน คปภ. ขอให้ความมั่นใจว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้วยความเป็นกลาง รอบคอบ และเคร่งครัด เโดยยึดประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นหลักสูงสุด หากตรวจพบว่าบริษัทประกันภัยรายใดดำเนินการไม่เป็นไปตามบทบัญญัติ
ถพแห่งกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สำนักงานจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด เพื่อให้ระบบประกันภัย ของประเทศยังคงมีเสถียรภาพ โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนในระยะยาว

 

                                 ######