กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2566 – ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก่อสร้าง-อสังหาฯ ประเดิมไตรมาสที่ 3 ทุ่มงบลงทุน 470 ล้านบาท เปิด ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม  สาขาสมุทรปราการ สาขาที่ 73 ของประเทศ โดยมีขนาดพื้นที่โดยประมาณ 20000 ตร.ม ตั้งอยู่บนทำเลทองเชื่อมต่อใจกลางย่านธุรกิจ สุขุมวิท – ศรีนครินทร์ และแหล่งไลฟ์สไตล์คนเมือง นอกจากนี้ สาขาดังกล่าวยังเป็นสาขาที่ 4 ของจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีสาขาบางนา สาขาบางพลี และสาขาสุขสวัสดิ์ ที่เปิดนำร่องก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงความต้องการวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านภายในจังหวัด และพื้นที่ใกล้เคียงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกออมนิชาแนลตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรของภูมิภาคตามแผนยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ไทวัสดุจึงได้เดินแผนขยายธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ด้วย ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม  สาขาสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสาขาที่ 73 ของประเทศ และเป็นสาขาที่ 4 ของจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเสริมทัพความแข็งแกร่งในบทบาทธุรกิจฮาร์ดไลน์ และตอกย้ำทิศทางที่เริ่มเป็นบวกของตลาดวัสดุก่อสร้าง - อสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาคึกคักในรอบหลายปี

กลยุทธ์ผนึกความแข็งแกร่งผ่านการ Collaboration แบรนด์  ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม  สาขาสมุทรปราการ เป็นอีกสาขาที่ดึงกลยุทธ์การผนึกความแข็งแกร่งของ 2  แบรนด์อย่างไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม  เพื่อสร้างความครบวงจรในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเพื่อบ้าน และมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือความคาดหมายให้แก่ชาวสมุทรปราการและคนในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จในโมเดลธุรกิจนี้ไปแล้ว เช่น สาขาศรีสมาน สาขาบางแสน สาขารังสิตคลอง 4 สาขาภูเก็ต ฉลอง สาขาเมืองเอก จากจุดเด่นที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องบ้านของผู้บริโภค ทั้งวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านที่หลากหลายในที่เดียว รวมถึงเสนอการให้บริการอย่างครบวงจรทุกขั้นตอนตั้งแต่ งานก่อสร้าง ปรับปรุง ตกแต่ง ติดตั้ง ซ่อมแซม

·     ความครบครันที่ให้มากกว่าเรื่องบ้านด้วย ‘ออโต้วัน’ ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร สาขาสมุทรปราการ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถ และช่างมืออาชีพมีประสบการณ์ พร้อมช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และดูแลรถยนต์ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจเช็คสภาพรถ ล้อยาง ช่วงล่าง ห้องเครื่อง ตลอดจนบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน มาพร้อมโปรโมชันเปิดตัวสาขาใหม่ที่ลดสูงสุด 50%

 แผน Green & Sustainable Retail ลดคาร์บอนและสนับสนุนพลังงานทางเลือก  ไทวัสดุให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดภายในองค์กรเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและสังคมโดยรอบ โดย ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม  สาขาสมุทรปราการ มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนพื้นที่หลังคา ขนาดติดตั้ง 1 MWp เพื่อสร้างพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์สำหรับใช้ภายในร้าน ด้วยระบบ Off-Grid โดยสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้สูงถึง 40-50% นอกจากนี้ ยังเป็น 1 ใน 68 สาขาที่นำร่องนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่านการปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 4000 ต้นทั่วประเทศ โดยสาขานี้มีแผนการปลูกต้นอินทนิลน้ำ และต้นมะฮอกกานี 200 ต้น รวมถึงพื้นคลุมดินถั่วเปรู 5000 ตร.ม ซึ่งมีส่วนช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างอากาศบริสุทธิ์ ทั้งยังเสริมสร้างทัศนียภาพ สร้างร่มเงาและความร่มรื่นให้แก่ผู้ใช้บริการ ตอกย้ำเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบรายแรกของไทยด้านความยั่งยืน

นายสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากศักยภาพด้านเศรษฐกิจของสมุทรปราการที่เติบโตเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ไทวัสดุยังได้วางยุทธศาสตร์ด้านโลเคชั่นสาขาที่ครอบคลุมทุกโซนของ 3 อำเภอหลัก ได้แก่ สาขาบางนา สาขาบางพลี ในอำเภอบางพลี สาขาสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง รวมถึงสาขาสมุทรปราการ อ.เมืองสมุทรปราการ  โดยมั่นใจถึงศักยภาพด้านการคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก แผนขยายเส้นทาง และความสนใจจากบริษัทผู้พัฒนาบิ๊กโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่เป็นอานิสงส์ให้ไทวัสดุได้รับความเชื่อมั่น และเป็นแพลตฟอร์ม
ที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับ ในปี 2566 ไทวัสดุตั้งเป้าเปิด 10 สาขา ซึ่ง ณ ปัจจุบันจนถึงเดือนสิงหาคมนี้ ได้เปิดสาขาใหม่แล้ว 8 สาขา ได้แก่ 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร 5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท และ 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย 8. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาสมุทรปราการ และยังมีแผนเปิดสาขาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปีนี้มีสาขารวมครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศทั้งสิ้น 80 สาขาตามแผนที่วางไว้